วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กริยาช่วย = Auxiliary verb

กริยาช่วย = Auxiliary verb
บทนำAuxilaries หมายถึง กริยาช่วย แต่ทว่ากริยาช่วยคืออะไรมีหน้าที่ทำอะไร และมีอะไรบ้างนั้น เป็นสิ่งที่นักเรียนจะต้องคลิกอ่านกันเองนะจ๊ะ เพราะค่อนข้างน่าสนใจ และมีรายละเอียดพอสมควร แต่รับรองว่าถ้านักเรียนได้ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว นักเรียนจะสามารถเลือกใช้ได้ดี และที่สำคัญ กริยาช่วยเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษด้วย เรียกว่าถ้าฝรั่งเห็นว่าหนูสามารถใช้กริยาช่วยได้อย่างไม่ผิดพลาด เขาจะรู้ทันทีว่าหนูมีความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงคำกริยา คืออะไร และมีกี่ประเภท คำ กริยา คือ เป็นหน่วยที่สำคัญที่สุดของประโยค เป็นอาการของประธาน เป็นคำที่จะต้องกระจายรูปไปตาม Tense และ Voice ที่ควรจะเป็น ในขณะเดียวกัน เราก็รู้กันอยู่ว่าในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปแบ่งกริยาได้เป็น 2 ประเภท ทั้งนี้ ขึ้นกับ เกณฑ์ในการแบ่ง เช่นถ้าดูว่าจะต้องมี กรรมมารองรับหรือไม่ ก็จะได้คำตอบว่า มีกริยา 2 ประเภท คือ แบบไม่มีกรรม (Intransitive Verb) และกริยาที่จะต้องมีกรรมมารองรับ (Transitive Verb)ถ้า จะดูที่การกระจายรูปของคำกริยา ก็จะได้ 2 ประเภท คือ กริยาที่กระจายรูปเป็น Past Tense และ Past Participle ด้วยการเติม -ed ท้ายคำเรียกว่า Regular Verb ส่วนกริยาที่มีรูปการกระจายต่างๆ กันไป เรียกว่า Irregular Verb เช่น go-went-gone, see-saw-seen เป็นต้นถ้า จะดูที่กริยาซึ่งเป็นการกระทำ หรืออาการที่แท้จริงของประธาน ซึ่งต้องกระจายรูปตาม Tense และ Voice ก็เรียกว่า Finite Verb ส่วนกริยาอื่นๆ ในประโยค ซึ่งไม่ใช่กริยาแท้ของประธานเรียกว่า Non-Finite Verb เช่นรูป Verb to + V1 (Infinitive) และรูป V + ing (Gerund)

คำกริยาช่วย 24 ตัว
กริยาช่วย
รูปปฎิเสธ
คำย่อ
is
is not
isn't
am
am not
-
are
are not
aren't
was
was not
wasn't
were
were not
weren't
do
do not
don't
does
does not
doesn't
did
did not
didn't
has
has not
hasn't
have
have not
haven't
had
had not
hadn't
can
can not
can't
could
could not
couldn't
may
may not
mayn't
might
might not
mightn't
will
will not
won't
would
would not
wouldn't
shall
shall not
shan't
should
should not
shouldn't
must
must not
mustn't
need
need not
needn't
dare
dare not
daren't
ought
ought not
oughtn't
used to
used not to
usedn't to

ไม่มีความคิดเห็น: