กริยาช่วย = Auxiliary verb
บทนำAuxilaries หมายถึง กริยาช่วย แต่ทว่ากริยาช่วยคืออะไรมีหน้าที่ทำอะไร และมีอะไรบ้างนั้น เป็นสิ่งที่นักเรียนจะต้องคลิกอ่านกันเองนะจ๊ะ เพราะค่อนข้างน่าสนใจ และมีรายละเอียดพอสมควร แต่รับรองว่าถ้านักเรียนได้ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว นักเรียนจะสามารถเลือกใช้ได้ดี และที่สำคัญ กริยาช่วยเป็นสิ่งที่แสดงถึงความสามารถทางภาษาอังกฤษด้วย เรียกว่าถ้าฝรั่งเห็นว่าหนูสามารถใช้กริยาช่วยได้อย่างไม่ผิดพลาด เขาจะรู้ทันทีว่าหนูมีความสามารถทางภาษาอังกฤษสูงคำกริยา คืออะไร และมีกี่ประเภท คำ กริยา คือ เป็นหน่วยที่สำคัญที่สุดของประโยค เป็นอาการของประธาน เป็นคำที่จะต้องกระจายรูปไปตาม Tense และ Voice ที่ควรจะเป็น ในขณะเดียวกัน เราก็รู้กันอยู่ว่าในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปแบ่งกริยาได้เป็น 2 ประเภท ทั้งนี้ ขึ้นกับ เกณฑ์ในการแบ่ง เช่นถ้าดูว่าจะต้องมี กรรมมารองรับหรือไม่ ก็จะได้คำตอบว่า มีกริยา 2 ประเภท คือ แบบไม่มีกรรม (Intransitive Verb) และกริยาที่จะต้องมีกรรมมารองรับ (Transitive Verb)ถ้า จะดูที่การกระจายรูปของคำกริยา ก็จะได้ 2 ประเภท คือ กริยาที่กระจายรูปเป็น Past Tense และ Past Participle ด้วยการเติม -ed ท้ายคำเรียกว่า Regular Verb ส่วนกริยาที่มีรูปการกระจายต่างๆ กันไป เรียกว่า Irregular Verb เช่น go-went-gone, see-saw-seen เป็นต้นถ้า จะดูที่กริยาซึ่งเป็นการกระทำ หรืออาการที่แท้จริงของประธาน ซึ่งต้องกระจายรูปตาม Tense และ Voice ก็เรียกว่า Finite Verb ส่วนกริยาอื่นๆ ในประโยค ซึ่งไม่ใช่กริยาแท้ของประธานเรียกว่า Non-Finite Verb เช่นรูป Verb to + V1 (Infinitive) และรูป V + ing (Gerund)
คำกริยาช่วย 24 ตัว
กริยาช่วย
รูปปฎิเสธ
คำย่อ
is
is not
isn't
am
am not
-
are
are not
aren't
was
was not
wasn't
were
were not
weren't
do
do not
don't
does
does not
doesn't
did
did not
didn't
has
has not
hasn't
have
have not
haven't
had
had not
hadn't
can
can not
can't
could
could not
couldn't
may
may not
mayn't
might
might not
mightn't
will
will not
won't
would
would not
wouldn't
shall
shall not
shan't
should
should not
shouldn't
must
must not
mustn't
need
need not
needn't
dare
dare not
daren't
ought
ought not
oughtn't
used to
used not to
usedn't to
วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
Has/Have to and Must
Has/Have to and Must
การใช้ has/have to และ must
- ใช้ได้กับประธานทุกชนิดโดยไม่ต้องเปลี่ยนรูป- ใช้กับสิ่งที่คนพูดคิดว่าสำคัญ ต้องทำ- ใช้กับ คนอื่นอยากให้เราทำ หรือคิดว่าสำคัญ และใช้กับพวกข้อบังคับmust กับ have to ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แทบจะใช้แทนกันได้ทุกโอกาส ต่างกันตรงความหนักเบาเล็กน้อย ตรงที่ must บังคับมากกว่านิดหน่อยคือ must ใช้ในโอกาสที่คนพูดเห็นความสำคัญคนอื่นอาจไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ have to มักใช้กับการกระทำที่คนอื่นๆก็เห็นว่าสำคัญ คนพูดจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยไม่แน่เช่นYou have to attend classes to pass the exam. เป็นที่ยอมรับกันว่าต้องไปเรียนถึงจะสอบได้ คนพูดคงเห็นด้วยYou must get on the bus now. คนพูดมีความเห็นว่าต้องขึ้นรถเดี๋ยวนี้ คนอื่นเห็นอย่างไรไม่รู้คำว่า must มีวิธีใช้อีกอย่างหนึ่ง ใช้แสดงความสำคัญ โดยมากใช้ในเครื่องหมายคำพูด เช่น The movie Suranaree is a "must".
- ใช้แสดงความแน่ใจ ความมั่นใจ สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่น Nolan must be in his office by now.Everything must come to pass.- ใช้แสดงความมุ่งมั่น ความตั้งใจเช่น We must finish this job today.- ใช้แสดงการบังคับ คำสั่งเช่น You must follow the instruction carefully.-ใช้แสดงการห้ามปราม การเตือนสติเช่น You mustn't talk to your elder brother like that.- ใช้แสดงสภาวการณ์ที่ถูกบังคับให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเช่น I must take this class next year.- เมื่อใช้ในรูปปฏิเสธ เติม not ข้างหลัง must (โดยมีรูปย่อ mustn't)- เมื่อใช้ในประโยคคำถาม วาง must ไว้หน้าประโยค เช่น Must he do it?
การใช้ has/have to และ must
- ใช้ได้กับประธานทุกชนิดโดยไม่ต้องเปลี่ยนรูป- ใช้กับสิ่งที่คนพูดคิดว่าสำคัญ ต้องทำ- ใช้กับ คนอื่นอยากให้เราทำ หรือคิดว่าสำคัญ และใช้กับพวกข้อบังคับmust กับ have to ไม่ต่างกันเท่าไหร่ แทบจะใช้แทนกันได้ทุกโอกาส ต่างกันตรงความหนักเบาเล็กน้อย ตรงที่ must บังคับมากกว่านิดหน่อยคือ must ใช้ในโอกาสที่คนพูดเห็นความสำคัญคนอื่นอาจไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ แต่ have to มักใช้กับการกระทำที่คนอื่นๆก็เห็นว่าสำคัญ คนพูดจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยไม่แน่เช่นYou have to attend classes to pass the exam. เป็นที่ยอมรับกันว่าต้องไปเรียนถึงจะสอบได้ คนพูดคงเห็นด้วยYou must get on the bus now. คนพูดมีความเห็นว่าต้องขึ้นรถเดี๋ยวนี้ คนอื่นเห็นอย่างไรไม่รู้คำว่า must มีวิธีใช้อีกอย่างหนึ่ง ใช้แสดงความสำคัญ โดยมากใช้ในเครื่องหมายคำพูด เช่น The movie Suranaree is a "must".
- ใช้แสดงความแน่ใจ ความมั่นใจ สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่น Nolan must be in his office by now.Everything must come to pass.- ใช้แสดงความมุ่งมั่น ความตั้งใจเช่น We must finish this job today.- ใช้แสดงการบังคับ คำสั่งเช่น You must follow the instruction carefully.-ใช้แสดงการห้ามปราม การเตือนสติเช่น You mustn't talk to your elder brother like that.- ใช้แสดงสภาวการณ์ที่ถูกบังคับให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งเช่น I must take this class next year.- เมื่อใช้ในรูปปฏิเสธ เติม not ข้างหลัง must (โดยมีรูปย่อ mustn't)- เมื่อใช้ในประโยคคำถาม วาง must ไว้หน้าประโยค เช่น Must he do it?
วันพุธ, กุมภาพันธ์ 11, 2009
Programming Languages
Programming Languagesภาษาที่ใช้ในการเขียนและพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันมีตัวหลักๆ ดังนี้กลุ่ม Procedural languages - BASIC- C- COBOL- FORTRAN- PASCALกลุ่ม Object-oriented languages- Smalltalk- JAVA- C++- Python- Rubyกลุ่ม Visual programming - Visual Basic- Visual FoxPro- Visual C++กลุ่ม Internet Programming- HTML- XML- VRML- Java- ActiveX
เขียนโดย aOJUoJ ที่ 1:26 ก่อนเที่ยง 0 ความคิดเห็น
วันพุธ, มกราคม 28, 2009
PrePoSiTion
Preposition = คำบุพบทมีหน้าที่เชื่อมคำกริยากับส่วนต่างๆ ของประโยคให้เข้ากันอย่างสมบูรณ์โดยปกติ คำบุพบทจะทำหน้าที่เป็น adverb= Example =against --> He is tsanding against the window.down --> She has jumped down the ground.in --> She is flying in the sky.into --> The boy is jumping into the river.
เขียนโดย aOJUoJ ที่ 10:57 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
วันพุธ, มกราคม 21, 2009
กริยา 3 ช่อง
awake awoke awoken ตื่นbe was, were been เป็น,อยู่,คือbe(is,am,are) was,were been เป็น,อยู่,คือbear bore born ถือ,เกิดbeat beat beat ตีbecome became become กลายเป็นbegin began begun เริ่มbend bent bent โค้ง งอbeset beset beset โอบล้อมรอบด้านbet bet bet พนันbid bid/bade bid/bidden ประมูลbind bound bound ผูกติดกันbite bit bitten (or bit) กัด ขบ ฉีกbleed bled bled เลือดออกblow blew blown พัด เป่า ตีbreak broke broken แตก, หักbreed bred bred ผสมพันธ์bring brought brought นำมา เอามาbroadcast broadcast broadcast ออกอากาศbuild built built สร้าง ก่อสร้างburn burned/burnt burned/burnt เผาburst burst burst ระเบิดออกbuy bought bought ซื้อcast cast cast หล่อcatch caught caught จับ ได้รับchoose chose chosen เลือกcling clung clung เกาะ เอาเป็นที่พึ่งcome came come มาcost cost cost ราคาcreep crept crept คืบคลานcut cut cut ตัดdeal dealt dealt จัดการdig dug dug ขุดdive dived (or dove) dived ดำนํ้าdo did done ทำdraw drew drawn วาด, ล่อ, ชักดาบ, ถอนเงินdream dreamed/dreamt dreamed/dreamt ฝันdrink drank drunk ดื่มdrive drove driven ขับรถeat ate eaten กินfall fell fallen ตก หล่นfeed fed fed ให้อาหารสัตว์feel felt felt รู้สึกfight fought fought ต่อสู้find found found พบfit fit fit พอเหมาะflee fled fled หลบหนีfling flung flung โยน พุ่ง เหวี่ยงfly flew flown บิน, นั่งเครื่องบินforbid forbade forbidden ห้าม ไม่อนุญาตforego (forgo) forewent foregone ยอม, ไม่เอาforget forgot forgotten ลืมforgive forgave forgiven ให้อภัยforsake forsook forsaken สละ, ละทิ้งfreeze froze frozen เย็นจนแข็ง หนาวget got gotten ได้, เอาgive gave given ให้go went gone ไปgrind ground ground บดgrow grew grown เติบโตขึ้นhang hunged hanged แขวนคอ (regular verb)hang (pictures) hung hung แขวน ห้อยhave had had มีhear heard heard ได้ยินhide hid hidden ซ่อนhit hit hit ตีhold held held ถือhurt hurt hurt ทำร้าย ทำอันตรายkeep kept kept เก็บรักษาkneel knelt knelt คุกเข่าknit knit knit ถักknow knew know รู้จักlay laid laid วาง ออกไข่lead led led นำleap leaped/lept leaped/lept กระโดดlearn learned/learnt learned/learnt เรียนleave left left ละทิ้ง จากไปlend lent lent ให้ยืมlet let let อนุญาตlie lay lain นอนลงlight lighted/lit lighted จุดไฟlose lost lost ทำหายmake made made ทำmean meant meant หมายถึงmeet met met พบmisspell misspelled /misspelt misspelled/ misspelt สะกดผิดmistake mistook mistaken ทำผิดmow mowed mowed/mown ตัดหญ้าovercome overcame overcome เอาชนะoverdo overdid overdone ทำมากเกินไปovertake overtook overtaken ตามทันoverthrow overthrew overthrown ปลดจากตำแหน่งpay paid paid จ่ายplead pled pled อ้อนวอน, ขอโทษprove proved proved/proven พิสูจน์put put put วางquit quitted (or quit) quit หยุด ยุติ เลิกread read read อ่านrid rid rid ขจัดride rode ridden ขี่ ขับring rang rung สั่นกระดิ่ง ดังrise rose risen ลุกขึ้นrun ran run วิ่งsaw sawed sawn เลื่อยsaw sawed sawed/sawn เลื่อยsay said said พูดsee saw seen เห็นseek sought sought ค้นหาsell sold sold ขายsend sent sent ส่งset set set ตั้ง วาง จัดsew sewed sewed/sewn เย็บshake shook shaken เขย่า สั่นshave shaved shaved/shaven โกนshear shore shorn ตัดขนแกะshed shed shed เท, กันน้ำ, ทิ้งshine shone shone ส่องแสงshoe shoed shoed/shod ซ่อมรองเท้าshoot shot shot ยิงshow showed showed/shown แสดงshrink shrank shrunk หดลง สั้นลงshut shut shut ปิดsing sang sung ร้องเพลงsink sank sunk จม ถอยลงsit sat sat นั่งslay slew slain ฆ่าsleep slept slept นอนslide slid slid สื่นไถล เลื่อนไปslit slit slit สอดกรีดตามยาวsmite smote smitten ตีอย่างแรงsow sowed sowed/sown หว่านพืชspeak spoke spoken พูดspeed sped sped เร่งความเร็วspend spent spent ใช้จ่ายspill spilled/spilt spilled/spilt ทำหกspin spun spun ม้วน กรอ ปั่นฝ้ายspit spit/spat spit บ้วนน้ำลายsplit split split แตก แยกsplit split split แยกออกจากกันspread spread spread แผ่spring sprang sprung โดดอย่างเร็ว เด้งstand stood stood ยืนsteal stole stolen ขโมยstick stuck stuck ติดอยู่กับsting stung stung ต่อย แทงstink stank stunk เหม็นstride strod stridden เดินก้าวยาว ๆstrike struck struck ตี ต่อย กระทบstring strung strung ขึ้นสาย, ร้อยลูกปัดstrive strove striven พยายาม ขันสู้swear swore sworn สาบาน ปฏิญาณsweep swept swept กวาดswell swelled swollen โตขึ้น หนาขึ้นswim swam swum ว่ายน้ำswing swung swung แกว่ง เหวี่ยงtake took taken เอา จับหยิบteach taught taught สอนtear tore torn ฉีก ขาดtell told told บอกthink thought thought คิดthrive thrived/throve thrived เติบโตthrow threw thrown เหวี่ยง ขว้างthrust thrust thrust เสือกเข้าไปtread trod trodden เดินunderstand understood understood เข้าใจuphold upheld upheld ยกไว้upset upset upset เสียใจwake woke waken ตื่น ปลุกwear wore worn สวม ใส่weave wove woven ทอผ้า สานwed wed wed แต่งงานweep wept wept ร้องไห้win won won ชนะwind wound wound ไขลานwithhold withheld withheld เก็บไว้withstand withstood withstood ทนฟ้าทนฝนwring wrung wrung บีบ คั้นwrite wrote written เขียน
เขียนโดย aOJUoJ ที่ 4:21 ก่อนเที่ยง 0 ความคิดเห็น
Programming Languages
Programming Languagesภาษาที่ใช้ในการเขียนและพัฒนาโปรแกรมในปัจจุบันมีตัวหลักๆ ดังนี้กลุ่ม Procedural languages - BASIC- C- COBOL- FORTRAN- PASCALกลุ่ม Object-oriented languages- Smalltalk- JAVA- C++- Python- Rubyกลุ่ม Visual programming - Visual Basic- Visual FoxPro- Visual C++กลุ่ม Internet Programming- HTML- XML- VRML- Java- ActiveX
เขียนโดย aOJUoJ ที่ 1:26 ก่อนเที่ยง 0 ความคิดเห็น
วันพุธ, มกราคม 28, 2009
PrePoSiTion
Preposition = คำบุพบทมีหน้าที่เชื่อมคำกริยากับส่วนต่างๆ ของประโยคให้เข้ากันอย่างสมบูรณ์โดยปกติ คำบุพบทจะทำหน้าที่เป็น adverb= Example =against --> He is tsanding against the window.down --> She has jumped down the ground.in --> She is flying in the sky.into --> The boy is jumping into the river.
เขียนโดย aOJUoJ ที่ 10:57 หลังเที่ยง 0 ความคิดเห็น
วันพุธ, มกราคม 21, 2009
กริยา 3 ช่อง
awake awoke awoken ตื่นbe was, were been เป็น,อยู่,คือbe(is,am,are) was,were been เป็น,อยู่,คือbear bore born ถือ,เกิดbeat beat beat ตีbecome became become กลายเป็นbegin began begun เริ่มbend bent bent โค้ง งอbeset beset beset โอบล้อมรอบด้านbet bet bet พนันbid bid/bade bid/bidden ประมูลbind bound bound ผูกติดกันbite bit bitten (or bit) กัด ขบ ฉีกbleed bled bled เลือดออกblow blew blown พัด เป่า ตีbreak broke broken แตก, หักbreed bred bred ผสมพันธ์bring brought brought นำมา เอามาbroadcast broadcast broadcast ออกอากาศbuild built built สร้าง ก่อสร้างburn burned/burnt burned/burnt เผาburst burst burst ระเบิดออกbuy bought bought ซื้อcast cast cast หล่อcatch caught caught จับ ได้รับchoose chose chosen เลือกcling clung clung เกาะ เอาเป็นที่พึ่งcome came come มาcost cost cost ราคาcreep crept crept คืบคลานcut cut cut ตัดdeal dealt dealt จัดการdig dug dug ขุดdive dived (or dove) dived ดำนํ้าdo did done ทำdraw drew drawn วาด, ล่อ, ชักดาบ, ถอนเงินdream dreamed/dreamt dreamed/dreamt ฝันdrink drank drunk ดื่มdrive drove driven ขับรถeat ate eaten กินfall fell fallen ตก หล่นfeed fed fed ให้อาหารสัตว์feel felt felt รู้สึกfight fought fought ต่อสู้find found found พบfit fit fit พอเหมาะflee fled fled หลบหนีfling flung flung โยน พุ่ง เหวี่ยงfly flew flown บิน, นั่งเครื่องบินforbid forbade forbidden ห้าม ไม่อนุญาตforego (forgo) forewent foregone ยอม, ไม่เอาforget forgot forgotten ลืมforgive forgave forgiven ให้อภัยforsake forsook forsaken สละ, ละทิ้งfreeze froze frozen เย็นจนแข็ง หนาวget got gotten ได้, เอาgive gave given ให้go went gone ไปgrind ground ground บดgrow grew grown เติบโตขึ้นhang hunged hanged แขวนคอ (regular verb)hang (pictures) hung hung แขวน ห้อยhave had had มีhear heard heard ได้ยินhide hid hidden ซ่อนhit hit hit ตีhold held held ถือhurt hurt hurt ทำร้าย ทำอันตรายkeep kept kept เก็บรักษาkneel knelt knelt คุกเข่าknit knit knit ถักknow knew know รู้จักlay laid laid วาง ออกไข่lead led led นำleap leaped/lept leaped/lept กระโดดlearn learned/learnt learned/learnt เรียนleave left left ละทิ้ง จากไปlend lent lent ให้ยืมlet let let อนุญาตlie lay lain นอนลงlight lighted/lit lighted จุดไฟlose lost lost ทำหายmake made made ทำmean meant meant หมายถึงmeet met met พบmisspell misspelled /misspelt misspelled/ misspelt สะกดผิดmistake mistook mistaken ทำผิดmow mowed mowed/mown ตัดหญ้าovercome overcame overcome เอาชนะoverdo overdid overdone ทำมากเกินไปovertake overtook overtaken ตามทันoverthrow overthrew overthrown ปลดจากตำแหน่งpay paid paid จ่ายplead pled pled อ้อนวอน, ขอโทษprove proved proved/proven พิสูจน์put put put วางquit quitted (or quit) quit หยุด ยุติ เลิกread read read อ่านrid rid rid ขจัดride rode ridden ขี่ ขับring rang rung สั่นกระดิ่ง ดังrise rose risen ลุกขึ้นrun ran run วิ่งsaw sawed sawn เลื่อยsaw sawed sawed/sawn เลื่อยsay said said พูดsee saw seen เห็นseek sought sought ค้นหาsell sold sold ขายsend sent sent ส่งset set set ตั้ง วาง จัดsew sewed sewed/sewn เย็บshake shook shaken เขย่า สั่นshave shaved shaved/shaven โกนshear shore shorn ตัดขนแกะshed shed shed เท, กันน้ำ, ทิ้งshine shone shone ส่องแสงshoe shoed shoed/shod ซ่อมรองเท้าshoot shot shot ยิงshow showed showed/shown แสดงshrink shrank shrunk หดลง สั้นลงshut shut shut ปิดsing sang sung ร้องเพลงsink sank sunk จม ถอยลงsit sat sat นั่งslay slew slain ฆ่าsleep slept slept นอนslide slid slid สื่นไถล เลื่อนไปslit slit slit สอดกรีดตามยาวsmite smote smitten ตีอย่างแรงsow sowed sowed/sown หว่านพืชspeak spoke spoken พูดspeed sped sped เร่งความเร็วspend spent spent ใช้จ่ายspill spilled/spilt spilled/spilt ทำหกspin spun spun ม้วน กรอ ปั่นฝ้ายspit spit/spat spit บ้วนน้ำลายsplit split split แตก แยกsplit split split แยกออกจากกันspread spread spread แผ่spring sprang sprung โดดอย่างเร็ว เด้งstand stood stood ยืนsteal stole stolen ขโมยstick stuck stuck ติดอยู่กับsting stung stung ต่อย แทงstink stank stunk เหม็นstride strod stridden เดินก้าวยาว ๆstrike struck struck ตี ต่อย กระทบstring strung strung ขึ้นสาย, ร้อยลูกปัดstrive strove striven พยายาม ขันสู้swear swore sworn สาบาน ปฏิญาณsweep swept swept กวาดswell swelled swollen โตขึ้น หนาขึ้นswim swam swum ว่ายน้ำswing swung swung แกว่ง เหวี่ยงtake took taken เอา จับหยิบteach taught taught สอนtear tore torn ฉีก ขาดtell told told บอกthink thought thought คิดthrive thrived/throve thrived เติบโตthrow threw thrown เหวี่ยง ขว้างthrust thrust thrust เสือกเข้าไปtread trod trodden เดินunderstand understood understood เข้าใจuphold upheld upheld ยกไว้upset upset upset เสียใจwake woke waken ตื่น ปลุกwear wore worn สวม ใส่weave wove woven ทอผ้า สานwed wed wed แต่งงานweep wept wept ร้องไห้win won won ชนะwind wound wound ไขลานwithhold withheld withheld เก็บไว้withstand withstood withstood ทนฟ้าทนฝนwring wrung wrung บีบ คั้นwrite wrote written เขียน
เขียนโดย aOJUoJ ที่ 4:21 ก่อนเที่ยง 0 ความคิดเห็น
วันพฤหัสบดีที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
การใช้ will และ would
การใช้ will และ wouldwill (v)
1. used to form futher tenses of other verbs when the subject is YOU HE SHE IT or THEY (ใช้เป็นอนาคตกาลในเมื่อประธานเป็น YOU HE SHE IT or THEY)
ตัวอย่างประโยค : He 'll telephone you at six o'clock tonight;
2. used to requests or command (ใช้ในคำขอร้องหรือคำสั่ง)
ตัวอย่างประโยค : Will you come into my office for a moment, please?
3. used to show willingness (ใช้แสดงความเต็มใจ)
ตัวอย่างประโยค : I 'll that for you if you like, I won't do it.
4. used to state that something happens regularly, is quite normal etc. (ใช้บอกว่าบางอย่างเกิดขึ้นเป็นประจำ)ตัวอย่างประโยค : Accidents will happen.I will (I'll) and you he she It they (..'ll) will not (won't)would (v)
1. the past tense of will (อดีตกาลของ will)
ตัวอย่างประโยค : I thought you would have finished by now.
2. used in speaking of things that are possible or probable ,might (อาจจะ)
ตัวอย่างประโยค : if I asked her to the party, would she come?
3. used to express a preference, opnion, wish, etc. politely (ใช้แสดงถึงความชอบกว่า ความเห็น ความปราถนา อย่างสุภาพ)
ตัวอย่างประโยค : I would do it this way.
4. used to express annoyance (ใช้แสดงถึงความรำคาญ)
ตัวอย่างประโยค : I've lost my carkeys-that would happen!
1. used to form futher tenses of other verbs when the subject is YOU HE SHE IT or THEY (ใช้เป็นอนาคตกาลในเมื่อประธานเป็น YOU HE SHE IT or THEY)
ตัวอย่างประโยค : He 'll telephone you at six o'clock tonight;
2. used to requests or command (ใช้ในคำขอร้องหรือคำสั่ง)
ตัวอย่างประโยค : Will you come into my office for a moment, please?
3. used to show willingness (ใช้แสดงความเต็มใจ)
ตัวอย่างประโยค : I 'll that for you if you like, I won't do it.
4. used to state that something happens regularly, is quite normal etc. (ใช้บอกว่าบางอย่างเกิดขึ้นเป็นประจำ)ตัวอย่างประโยค : Accidents will happen.I will (I'll) and you he she It they (..'ll) will not (won't)would (v)
1. the past tense of will (อดีตกาลของ will)
ตัวอย่างประโยค : I thought you would have finished by now.
2. used in speaking of things that are possible or probable ,might (อาจจะ)
ตัวอย่างประโยค : if I asked her to the party, would she come?
3. used to express a preference, opnion, wish, etc. politely (ใช้แสดงถึงความชอบกว่า ความเห็น ความปราถนา อย่างสุภาพ)
ตัวอย่างประโยค : I would do it this way.
4. used to express annoyance (ใช้แสดงถึงความรำคาญ)
ตัวอย่างประโยค : I've lost my carkeys-that would happen!
วันพฤหัสบดีที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552
คำศัพท์ Unit 20
วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552
Passive Voice
Passive Voice Voice หมายถึงวิธีพูด
Active Voice หมายถึงรูปกริยาซึ่งประธานเป็นผู้กระทำหรือแสดงกริยานั้นโดยตรง เช่น The dog bit the boy. สุนัขกัดเด็กชาย ( สุนัขเป็นประธานผู้กระทำโดยตรง และเด็กชายเป็นกรรม)Dara will present her research at the conference.Susan is cooking dinner.They are going to build a new house soon.
Passive Voice หมายถึงรูปกริยาซึ่งประธานเป็นผู้ถูกกระทำกริยานั้นโดยผู้อื่น
หลักการใช้ Passive Voice มีดังนี้
ให้ความสำคัญกับกรรม ( object ) ของประโยคหรือสิ่งที่ถูกกระทำมากกว่าประธาน หรือไม่สนใจว่าใครทำแต่สนใจผลที่เกิดขึ้น เช่นYour bicycle has been damaged. รถจักรยานของคุณถูกทำเสียหาย( ประโยคนี้ไม่สนใจว่าใครเป็นคนทำ สนใจแต่เพียงว่ามีการเสียหายเกิดขึ้น เช่นเดียวกับประโยคต่อไป)Rules are made to be broken. ( by ? )Police are being notified ( by? ) that three prisoners have escaped.Everything will have been done by Tuesday.ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงผู้กระทำ เนื่องจากรู้กันอยู่แล้วThe thieves were all arrested . ( เป็นทั่รู้กันอยู่ว่าผู้จับน่าจะเป็นตำรวจ )English is spoken here. ( ผู้ที่พูดคือคนโดยทั่วไป ) เมื่อไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำPrinting was invented in China. ( ผู้คิดค้นเป็นใครไม่ทราบ )การทำ Active Voice ให้เป็น Passive Voice
I. ประโยคที่มีกรรมตัวเดียว ( Direct Object )
เอากรรมของประโยคขึ้นมาเป็นประธานใช้ verb to be ให้ถูกต้องตามประธานกริยาแท้ในประโยคให้เปลี่ยนเป็นช่อง 3 ( past participle )เอาประธานของประโยค Active ไปเป็นกรรมหลัง by
เช่น
The boy was bitten by the dog. ( เอากรรมคือเด็กชายขึ้นมาเป็นประธาน )Research will be presented by Dara at the conference.Dinner is being cooked by Susan. A new house is going to be built . ( by them )
หมายเหตุ ผู้กระทำในประโยค Passive ที่เป็น phrase " by the......" อาจจะละไว้ก็ได้
สรุปการใช้ประโยค Passive Voice ของ Tenses ต่างๆ
Tenses ประธาน กริยาช่วย PastParticiple เอกพจน์ พหูพจน์ Present The car/cars is are designed. Present perfect The car/cars has been have been designed. Past The car/cars was were designed. Past perfect The car/cars had been had been designed. Future The car/cars will be will be designed. Future perfect The car/cars will have been will have been designed. Present progressive The car/cars is being are being designed. Past progressive The car/cars was being were being designed.
Active Voice หมายถึงรูปกริยาซึ่งประธานเป็นผู้กระทำหรือแสดงกริยานั้นโดยตรง เช่น The dog bit the boy. สุนัขกัดเด็กชาย ( สุนัขเป็นประธานผู้กระทำโดยตรง และเด็กชายเป็นกรรม)Dara will present her research at the conference.Susan is cooking dinner.They are going to build a new house soon.
Passive Voice หมายถึงรูปกริยาซึ่งประธานเป็นผู้ถูกกระทำกริยานั้นโดยผู้อื่น
หลักการใช้ Passive Voice มีดังนี้
ให้ความสำคัญกับกรรม ( object ) ของประโยคหรือสิ่งที่ถูกกระทำมากกว่าประธาน หรือไม่สนใจว่าใครทำแต่สนใจผลที่เกิดขึ้น เช่นYour bicycle has been damaged. รถจักรยานของคุณถูกทำเสียหาย( ประโยคนี้ไม่สนใจว่าใครเป็นคนทำ สนใจแต่เพียงว่ามีการเสียหายเกิดขึ้น เช่นเดียวกับประโยคต่อไป)Rules are made to be broken. ( by ? )Police are being notified ( by? ) that three prisoners have escaped.Everything will have been done by Tuesday.ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงผู้กระทำ เนื่องจากรู้กันอยู่แล้วThe thieves were all arrested . ( เป็นทั่รู้กันอยู่ว่าผู้จับน่าจะเป็นตำรวจ )English is spoken here. ( ผู้ที่พูดคือคนโดยทั่วไป ) เมื่อไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำPrinting was invented in China. ( ผู้คิดค้นเป็นใครไม่ทราบ )การทำ Active Voice ให้เป็น Passive Voice
I. ประโยคที่มีกรรมตัวเดียว ( Direct Object )
เอากรรมของประโยคขึ้นมาเป็นประธานใช้ verb to be ให้ถูกต้องตามประธานกริยาแท้ในประโยคให้เปลี่ยนเป็นช่อง 3 ( past participle )เอาประธานของประโยค Active ไปเป็นกรรมหลัง by
เช่น
The boy was bitten by the dog. ( เอากรรมคือเด็กชายขึ้นมาเป็นประธาน )Research will be presented by Dara at the conference.Dinner is being cooked by Susan. A new house is going to be built . ( by them )
หมายเหตุ ผู้กระทำในประโยค Passive ที่เป็น phrase " by the......" อาจจะละไว้ก็ได้
สรุปการใช้ประโยค Passive Voice ของ Tenses ต่างๆ
Tenses ประธาน กริยาช่วย PastParticiple เอกพจน์ พหูพจน์ Present The car/cars is are designed. Present perfect The car/cars has been have been designed. Past The car/cars was were designed. Past perfect The car/cars had been had been designed. Future The car/cars will be will be designed. Future perfect The car/cars will have been will have been designed. Present progressive The car/cars is being are being designed. Past progressive The car/cars was being were being designed.
วันพฤหัสบดีที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2552
Active & Passive
Active Passive
Simple Present
Once a week, Tom cleans the house.
Once a week, the house is cleaned by Tom.
Present Continuous
Right now, Sarah is writing the letter.
Right now, the letter is being written by Sarah.
Simple Past
Sam repaired the car.
The car was repaired by Sam.
Past Continuous
The salesman was helping the customer when the thief came into the store.
The customer was being helped by the salesman when the thief came into the store.
Present Perfect
Many tourists have visited that castle.
That castle has been visited by many tourists.
Present Perfect Continuous
Recently, John has been doing the work.
Recently, the work has been being done by John.
Past Perfect
George had repaired many cars before he received his mechanic's license.
Many cars had been repaired by George before he received his mechanic's license.
Past Perfect Continuous
Chef Jones had been preparing the restaurant's fantastic dinners for two years before he moved to Paris .
The restaurant's fantastic dinners had been being prepared by Chef Jones for two years before he moved to Paris .
Simple Future
will
Someone will finish the work by 5:00 PM.
The work will be finished by 5:00 PM.
Simple Future
be going to
Sally is going to make a beautiful dinner tonight. A beautiful dinner is going to be made by Sally tonight.
Future Continuous
will
At 8:00 PM tonight, John will be washing the dishes.
At 8:00 PM tonight, the dishes will be being washed by John.
Future Continuousbe
going to
At 8:00 PM tonight, John is going to be washing the dishes.
At 8:00 PM tonight, the dishes are going to be being washed by John.
Future Perfect
will
They will have completed the project before the deadline.
The project will have been completed before the deadline.
Future Perfect
be going to
They are going to have completed the project before the deadline.
The project is going to have been completed before the deadline.
Future Perfect Continuous
will
The famous artist will have been painting the mural for over six months by the time it is finished.
The mural will have been being painted by the famous artist for over six months by the time it is finished.
Future Perfect Continuous
be going to
The famous artist is going to have been painting the mural for over six months by the time it is finished.
The mural is going to have been being painted by the famous artist for over six months by the time it is finished.
Used to
Jerry used to pay the bills.
The bills used to be paid by Jerry.
Would Always
My mother would always make the pies.
The pies would always be made by my mother.
Future in the Past
Would
I knew John would finish the work by 5:00 PM.
I knew the work would be finished by 5:00 PM.
Future in the Past
Was Going to
I thought Sally was going to make a beautiful dinner tonight.
I thought a beautiful dinner was going to be made by Sally tonight.
Simple Present
Once a week, Tom cleans the house.
Once a week, the house is cleaned by Tom.
Present Continuous
Right now, Sarah is writing the letter.
Right now, the letter is being written by Sarah.
Simple Past
Sam repaired the car.
The car was repaired by Sam.
Past Continuous
The salesman was helping the customer when the thief came into the store.
The customer was being helped by the salesman when the thief came into the store.
Present Perfect
Many tourists have visited that castle.
That castle has been visited by many tourists.
Present Perfect Continuous
Recently, John has been doing the work.
Recently, the work has been being done by John.
Past Perfect
George had repaired many cars before he received his mechanic's license.
Many cars had been repaired by George before he received his mechanic's license.
Past Perfect Continuous
Chef Jones had been preparing the restaurant's fantastic dinners for two years before he moved to Paris .
The restaurant's fantastic dinners had been being prepared by Chef Jones for two years before he moved to Paris .
Simple Future
will
Someone will finish the work by 5:00 PM.
The work will be finished by 5:00 PM.
Simple Future
be going to
Sally is going to make a beautiful dinner tonight. A beautiful dinner is going to be made by Sally tonight.
Future Continuous
will
At 8:00 PM tonight, John will be washing the dishes.
At 8:00 PM tonight, the dishes will be being washed by John.
Future Continuousbe
going to
At 8:00 PM tonight, John is going to be washing the dishes.
At 8:00 PM tonight, the dishes are going to be being washed by John.
Future Perfect
will
They will have completed the project before the deadline.
The project will have been completed before the deadline.
Future Perfect
be going to
They are going to have completed the project before the deadline.
The project is going to have been completed before the deadline.
Future Perfect Continuous
will
The famous artist will have been painting the mural for over six months by the time it is finished.
The mural will have been being painted by the famous artist for over six months by the time it is finished.
Future Perfect Continuous
be going to
The famous artist is going to have been painting the mural for over six months by the time it is finished.
The mural is going to have been being painted by the famous artist for over six months by the time it is finished.
Used to
Jerry used to pay the bills.
The bills used to be paid by Jerry.
Would Always
My mother would always make the pies.
The pies would always be made by my mother.
Future in the Past
Would
I knew John would finish the work by 5:00 PM.
I knew the work would be finished by 5:00 PM.
Future in the Past
Was Going to
I thought Sally was going to make a beautiful dinner tonight.
I thought a beautiful dinner was going to be made by Sally tonight.
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)